สมาร์ทโฟนตัวท็อปในงาน Thailand Mobile Expo 2023 พบกัน 26-29 ตค.นี้ ที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์

กลับมาพบกันอีกครั้งในงาน Thailand Mobile Expo 2023 มหกรรมโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แก็ดเจ็ทส่งท้ายปลายปีที่จัดกันมาต่อเนื่อง สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนตัวท็อปต้องไม่พลาด เพราะโปรโมชั่นจัดใหญ่จัดเต็มทุกรอบ ส่วนจะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างนั้น เรารวบรวมมาไว้ให้หมดแล้ว

Samsung Galaxy Z Fold5

สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้อย่าง Galaxy Z Fold5 ที่พัฒนาต่อเนื่องกันมาทุกปี มาถึงปีนี้ถึงแม้ว่จะมีรูปทรงที่คล้ายเดิม แต่บานพับของรุ่นนี้ทำได้แนบสนิทลงกว่าเดิมมาก แถมยังมาพร้อมหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ที่แรงกว่าเดิมอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 ส่วนอื่นๆ ก็ยังคงคล้ายเดิม ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลภายนอกขนาด AMOLED 2X ใหญ่ 6.2 นิ้ว,​จอแสดงผลด้านในขนาดใหญ่กว่า 7.6 นิ้ว มีขนาดน้องๆ แท็บเล็ตเลยทีเดียว แถมยังใช้ปากกา S Pen วาดเขียน จดบันทึกได้อีกด้วย สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 59,900 บาทสำหรับรุ่นหน่วยความจำ 12/256 GB และแน่นอนว่า Samsung จัดหนักโปรโมชั่นรุ่นนี้อย่างแน่นอน

Samsung Galaxy Z Flip5

ตามกันมาติดๆ กับสมาร์ทโฟนฝาพับที่สาวๆ ชื่นชอบ มาคราวนี้อัพเกรดใหญ่ พัฒนาให้บานพับมีขนาดบางลง ปรับขนาดหน้าจอด้านนอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 3.4 นิ้ว สามารถใช้งานได้เกือบครบทุกฟังก์ชั่นโดยไม่ต้องเปิดฝาออกมา อีกทั้งยังใช้ถ่ายภาพเซลฟี่โดยใช้กล้องหลัก เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน และหากต้องการใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพก็เปิดฝาพับออกมาก็จะได้จอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ใช้งานได้เร็วแรงเหมือนกับสมาร์ทโฟน Flagship รุ่นอื่นๆ ด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 เร็วแรงเหลือๆ เปิดราคาเริ่มต้นเพียง 39,990 บาท รอดูโปรโมชั่นใกล้ๆ งานได้เลย

Samsung Galaxy S23 Ultra

สมาร์ทโฟน Flagship อีกรุ่นที่แม้ว่าจะเปิดตัวไปสักพักแล้ว แต่ยังมีความน่าสนใจทั้งประสิทธิภาพการใช้งาน และการถ่ายภาพ โดยกล้องรุ่นนี้มีความละเอียดมาให้ถึง 200  ล้านพิกเซล ซูมออฟติคอล 10x และซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 100x พร้อมถ่ายวิดีโอความละเอียดได้สูงสุดถึง 8K เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังพกเอาความแรงแบบสุดๆ ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 ใหม่ล่าสุด จะถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง ดูหนัง เล่นเกมกราฟฟิคหนักๆ S23 Ultra เครื่องเดียวเอาอยู่ มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ พร้อมปากกา S Pen ในตัวมีให้เลือกทั้งรุ่นหน่วยความจำ 8/256, 12/512 GB ก็เลือกได้ตามกำลังทรัพย์เลย อ่อ สำหรับใครที่อยากได้ Galaxy S23 ในราคาที่ประหยัดกว่าเดิมก็จะมีรุ่น S23 FE ที่กำลังจะเปิดตัว และน่าจะมาทันในงานนี้อีกด้วย รอติดตามได้เลยครับ

OPPO Reno10 Pro+

แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่ถูกพูดถึงมากนัก แต่ OPPO Reno10 Pro+ 5G ถือเป็นรุ่นท็อปของ Reno10 Series ด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.74 นิ้ว แสดงผล 1 พันล้านสี ความแรงของชิปประมวลผลอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 อาจจะยังแรงไม่สุด แต่ก็ถือว่าค่อนข้างแรงถ้าเทียบกับชิปประมวลผลตัวอื่นๆ มาพร้อม SUPERVOOC ชาร์จเร็ว 100 วัตต์ และที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คงจะเป็นเรื่องของการถ่ายภาพด้วยกล้อง 50 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องซูม 3x ที่มีความละเอียดถึง 64 ล้านพิกเซล และที่พลาดไม่ได้คือกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมกับโหมด Portrait ที่ขึ้นชื่อของ OPPO ใครที่ชอบถ่ายภาพ Portrait ที่มาพร้อมกับสมาร์ทโฟนแรงๆ รุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจในราคาที่ไม่แรงมากนักอยู่ที่ 27,900 บาท นอกจากนี้ยังมี OPPO Reno10 Pro 5G หรือ Reno10 5G ที่มีราคาย่อมเยากว่าก็มีให้เลือกเช่นกัน

vivo X90 5G

vivo X Series คือที่สุดของสมาร์ทโฟนจาก vivo ที่แต่ละปีจะมีการพัฒนาให้มีความสุดยอดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการถ่ายภาพที่มีกล้อง ZEISS ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมด Bokeh ที่ถอดความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเลนส์ ZEISS ถ่ายภาพ Portrait แบบหน้าชัดหลังเบลอได้ดั่งกับพกกล้องใหญ่จริงๆ กล้องหน้าเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล ในด้านประสิทธิภาพการทำงานก็ไม่น้อยหน้าใครด้วยชิปประมวลผลที่แรงสุดๆ อย่าง Dimensity 9200 จากฝั่ง MediaTek หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาดใหญ่สะใจ 6.78 นิ้ว อีกทั้งยังชาร์จเร็วถึง 120 วัตต์ หนึ่งในที่สุดของสมาร์ทโฟนในด้านการถ่ายภาพต้องยกให้รุ่นนี้เลย สนนราคาเปิดตัว 39,999 บาท รอติดตามโปรเด็ดได้จากหน้าเพจได้เลย

HONOR Magic5 Pro 5G

อีกหนึ่งสมาร์ทโฟน Flagship ที่น่าสนใจอีกรุ่นจาก HONOR คือ HONOR Magic5 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธงในราคาไม่ถึง 3 หมื่น (29,990 บาท) แต่ได้ความแรงเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนที่เราแนะนำมาข้างต้นหลายรุ่น ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 ที่ถือเป็นที่สุดของชิปประมวลผลในเวลานี้ และยังมาพร้อมกล้องหลัก กล้อง Telescope ที่มีความละเอียดเท่ากัน 50 ล้านพิกเซล ซูมออฟติคอล 5x และซูมดิจิตอล 100x นอกจากนี้ยังมีจอแสดงผลแบบ LTPO ขนาดใหญ่ 6.81 นิ้ว หน่วยความจำแบบจุกๆ 12/512 GB ชาร์จเร็ว 60 วัตต์ รองรับชาร์จไร้สายอีก 50 วัตต์ ด้วยสเป็คขนาดนี้ในราคาไม่ถึง 3 หมื่นบาทจะอดใจอย่างไรไหว และถ้ารวมโปรโมชั่นในงานจะขนาดไหน!!!

realme 11 Pro, realme 11 Pro+

หลังจาก realme GT2 Pro วางจำหน่ายมาสักพักก็ยังไม่มีสมาร์ทโฟนเรือธงจาก realme ออกมาอีก เราจึงยกเอา realme 11 Pro มาแนะนำแก้ขัดกันไปก่อน โดย realme 11 Pro ดีไซน์ด้วยหนังวีแกนเกรดพรีเมี่ยม เปิดตัวออกมา 2 รุ่นคือ realme 11 Pro และ realme 11 Pro+ ซึ่งทั้งสองรุ่นมีสเป็คที่คล้ายกันมาก ต่างกันที่กล้องจะมีกล้องความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ระบบกันสั่น OIS SuperZoom หน่วยประมวลผล Dimensity 7050 5G หน่วยความจำ 12/256GB ชาร์จเร็ว SUPERVOOC 100 วัตต์ เปิดตัวในราคา 16,999 บาทในรุ่น Pro+ และในรุ่น Pro มีหน่วยความจำ 8/256GB ชาร์จเร็ว SUPERVOOC 67 วัตต์ เปิดตัวในราคา 12,999 บาท ส่วนโปรโมชั่นในงานรับรองว่าเด็ดอย่างแน่นอน

HUAWEI P60 Pro

แม้ว่า HUAWEI Mate 60 Pro จะยังไม่เข้าไทย แต่ยังมี HUAWEI P60 Pro ที่ก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน มาพร้อมดีไซน์สีขาวไข่มุกที่ไม่เหมือนใคร หน้าจอมีความทนทานด้วยกระจก Khunlun ทนต่อการตกหล่นกว่าเดิมถึง 10 เท่า หน้าจอแสดงผล LTPO OLED มีขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว Quad curved design หน่วยประมวลผล Snapdragon 8+ Gen 1 ระบบปฏิบัติการ EMUI 13.1 ดาวน์โหลดแอปฯ ผ่าน HUAWEI AppGallery กล้อง Ultra Lighting XMAGE Camera ความละเอียด 48 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์ Telescope ระบบชาร์จเร็ว HUAWEI SuperCharge 80 วัตต์ รองรับชาร์จไร้สาย 50 วัตต์ เปิดตัว 2 รุ่น หน่วยความจำ 8/256 GB วางจำหน่ายในราคา 37,990 บาท และสำหรับหน่วยความจำ 12/512 GB วางจำหน่ายในราคา 43,990 บาท รอติดตามโปรโมชั่นเด็ดได้ภายในงาน

Xiaomi 13T Series

พึ่งเปิดตัวไปหมาดๆ กับ Xiaomi 13T Series มีให้เลือก 2 รุ่น Xiaomi 13T และ Xiaomi 13T Pro โดยทั้งสองรุ่นมีความโดดเด่นในด้านด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพระดับตำนานจาก LEICA ที่เข้ามาพัฒนาร่วมกับ Xiaomi กล้องมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมการถ่ายภาพในแบบฉบับของ LEICA สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K สำหรับรุ่น 13T Pro ยังมีหน่วยประมวลผลสุดแรงอย่าง Dimensity 9200+ ที่ถือว่าแรงแบบสุดๆ และสำหรับ Xiaomi 13T ใช้หน่วยประมวลผล Dimensity 8200+ ในระดับความแรงที่รองลงมา จอแสดงผลทั้ง 2 รุ่นมีขนาดใหญ่เท่ากันที่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5k อัตรา Refresh rate สูงถึง 144 Hz รองรบการแสดงผลได้ถึง 68 พันล้านสี นอกจากนี้ในรุ่น 13T Pro ยังรองรับการชาร์จเร็ว HyperCharge 120 วัตต์ และในรุ่น 13T รองรับ HyperChage 67 วัตต์ เปิดตัวในราคาเบาๆ เริ่มต้นเพียง 15,990 บาทสำหรับรุ่น Xiaomi 13T และรุ่น Xiaomi 13T Pro เปิดตัวในราคา 19,990 บาทในรุ่นหน่วยความจำ 12/512GB และในรุ่น 16/1TB ราคา 23,990 บาท

iPhone 15, iPhone 15 Plus

สมาร์ทโฟนขวัญใจมวลชนอย่าง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ก็พึ่งจะเปิดตัว และวางจำหน่ายไปไม่นาน มีสีสันให้เลือกเป็นเจ้าของมากมาย โดยในครั้งนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Dynamic Island โดยนำเอาจอแสดงผลของรุ่น Pro ของรุ่นก่อนมาใส่ในรุ่นนี้ มีให้เลือก 2 รุ่น 2 ขนาดหน้าจอที่ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว อัพเกรดชิปมาเป็น Apple A16 ที่แรงกว่าเดิม มีหน่วยความจำให้เลือกตั้งแต่ 128 GB ไปจนถึง 512 GB ปรับเปลี่ยนพอร์ตชาร์จจากพอร์ต Lightning มาเป็นพอร์ต USB-C ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เปิดตัวในราคาเริ่มต้น 32,900 บาท ภายในงานมีให้เลือกทุกสีอย่างแน่นอน

iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max

สำหรับ iPhone 15 Pro ในปีนี้ถือว่าคึกคักกว่าทุกปี มาพร้อมวัสดุไทเทเนียม เป็นวัสดุที่ใช้ในยานอวกาศที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน ดีไซน์แบบขอบลบเหลี่ยมให้โค้งมนกว่าเดิม  มีให้เลือกทั้งในรุ่น Pro หน้าจอ Super Retina XDR Dynamic Island ขนาด 6.1 นิ้ว และ Pro Max หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว หน่วยประมวลผล Apple A17 Pro ที่แรงกว่าเดิม มีหน่วยความจำให้เลือกสูงสุดถึง 1 TB กล้องหลัง 3 เลนส์ 48 ล้านพิกเซล พร้อมถ่ายวิดีโอแบบ ProRES ระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนพอร์ตชาร์จจากพอร์ต Lightning มาเป็นพอร์ต USB-C ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เปิดตัวในราคาเริ่มต้น 48,900 บาท โดยวันแรกที่เปิดจองก็โดนกวาดจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ แต่สำหรับในงานรับรองว่ามีของอย่างแน่นอน แต่จะมีมากมีน้อยต้องคอยติดตามกันดีๆ นะครับ เตรียมตัวมาต่อคิวกันได้เลย

งาน Thailand Mobile Expo 2023 จะมีขึ้นในวันที่ 23-29 ตุลาคม 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริติ์ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT พร้อมที่จอดรถกว่า 2,000 คัน สามารถติดตามโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่เวบไซต์ www.thailandmobileexpo.com และ Facebook Fanpage : Thailand Mobile Expo